ภาวะสายตา ”ผิดปกติ” แบ่งได้เป็น 4 ประเภท
– สายตาสั้น(Myopia) มองเห็นวัตถุที่อยู่ใกล้ชัด แต่มองไกลไม่ชัด -สายตายาว (Hyperopia) มองไกลไม่ชัด มองใกล้ชัด แต่บางกรณีอาจมีปัญหาทั้งมองไกลและใกล้ก็ไม่คมชัด -สายตาเอียง (Astigmatism) เกิดร่วมกับสายตาสั้นและสายตายาว มีอาการมองเห็นภาพซ้อนหรือบืดเบี้ยว ล้าตา ปวดตา ภาพเป็นแสงกระจาย ต้องหรี่ตาเพื่อมองเห็นได้ชัดขึ้น -สายตายาวสูงวัย (Presbyopia) พบในกลุ่มอายุ 39 ปีขึ้นไป มองใกล้ไม่ชัดเจน เกิดจากเลนส์ตาเสื่อม แต่มองไกลได้ดี —>การวินิจฉัย ควรได้รับการตรวจวัดระดับการมองเห็นโดยผู้เชี่ยวชาญ OPTICIAN เพื่อปรับให้การมองเห็นชัดขี้น —>การรักษา – การใช้เเว่นสายตา – การใส่คอนแทคเลนส์ – การผ่าตัดโดยการใช้เเสงเลเซอร์
ปัญหา Computer Vision Syndrome(CVS) ทุกๆสายตาแก้ไขได้
ทำงานหนัก ตาล้า แก้ไขปัญหายังไงดี? ร้านแว่นตาCHIC optical มีคำตอบ… การใช้เลนส์ตัดแสงสีฟ้า ก็เหมือนการทาครีมกันแดด ที่ช่วยปกป้องดวงตาชั้นนอก รวมไปถึงจอประสาทตา แต่แล้วส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อดวงตา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอวัยวะสำคัญที่ทำงานอยู่ตลอดเวลาล่ะ เราจะสามารถดูแลอย่างไรได้บ้าง ? อาการตาล้า เกิดจากใช้สายตาทำงานในระยะใกล้ Computer เป็นเวลานาน ติดต่อกันหลายชั่วโมง สายตาที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ อาการจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อใช้เวลากับคอมพิวเตอร์นานมากขึ้น. อาการของ Computer Vision Syndrome (CVS) จะมีอาการเมื่อยล้าตา ปวดตา เคืองตา ตาแห้ง น้ำตาไหล ตามัว เห็นภาพซ้อน ปวดคอ หลังและไหล่ ทำให้กล้ามเนื้อดวงตาต้องทำงานหนัก บีบตัว เพื่อโฟกัสภาพระยะใกล้ จึงทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนล้า มองเห็นภาพเบลอ ตาไม่โฟกัส มีอาการปวดหัว ปวดเบ้าตาตามมา ปัญหาสายตาและแว่นตา สายตายาว คนที่มีสายตายาวมีกำลังของสายตาน้อยกว่าปกติ การมองเห็นจอให้เห็นชัดจึงต้องใช้ accommodation มากกว่าคนสายตาปกติ. ในคนที่ไม่มี accommodation ที่เพียงพอจะมีอาการปวด เมื่อยล้าตา ปวดศีรษะได้เมื่อต้องเพ่งมองคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ. คนที่มีสายตายาวแต่ไม่ได้ใส่แว่น จะมีอาการมัวเวลามองคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ อาการตามัวอาจมัวเป็นพักๆ เพราะตาไม่สามารถมี accommodation ได้ตลอดเวลา เมื่ออายุมากขึ้นความสามารถในการ […]
ศูนย์เลนส์โปรเกรสซีฟแห่งแรกย่านสาทร
ปรับก่อนป่วย / มองชัดทุกระยะด้วยเลนส์โปรเกรสซีฟ ปรับก่อนป่วย / มองชัดทุกระยะด้วยเลนส์โปรเกรสซีฟ เลนส์โปรเกรสซีฟ คือ เลนส์ที่แก้ไขปัญหาสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง ได้ในแว่นเดียว เหมาะกับคนช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป เพราะการมองเห็นในระยะใกล้และกลางมีประสิทธิภาพลดลง ถือเป็นเลนส์แบบ All in one แต่ด้วยความซับซ้อนของปัญหาค่าสายตา ทำให้มีกรณีที่ตัดแว่นมาแล้ว ใส่ไม่ได้ มีปัญหาปวดตา ช่วงปรับก่อนป่วย มีข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ คำแนะนำ วิธีใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการมองเห็น ติดตามความรู้จาก ชนิตา ตันเจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเลนส์สายตาเฉพาะบุคคล ทางช่อง ThaiPBS…ช่วงปรับก่อนป่วย/ มองชัดทุกระยะด้วยเลนส์โปรเกรสซีฟ
การวัดค่าPD (Pupildistance) นั้นสำคัญอย่างไร?
ตัดเเว่นทำไมต้องวัดค่า PD (Pupildistance) การวัดค่า PD (Pupildistance) หากค่าพารามิเตอร์ต่างๆของแว่นตา ไม่ตรงจะมีผลต่อผู้สวมใส่อย่างไรบ้าง??? ค่าพารามิเตอร์ต่างๆในแว่นตา เป็นค่าที่สำคัญไม่อาจละเลยได้ เพราะนั้นหมายความว่าคุณอาจ กำลังใส่แว่นตาที่เป็นปริซึมไปโดยไม่รู้ตัว #ค่าPD เป็นค่าที่บ่งบองถึงจุดที่ดีและจุดที่เด่นชัดสุดของเลนส์แว่นตา นั้นหมายถึงเวลาที่คุณมองผ่านเลนส์แว่นตาใน 1 แผ่นของเลนส์จะมีจุดที่เป็นค่าสายตาที่ชัดเจนถูกต้องมากที่สุดอยู่ จุดหนึ่งเท่านั้น ส่วนอื่นๆนอกจากนี้ จะเป็นค่าเฉลี่ยที่เป็นค่าสายตาที่อาจใกล้เคียงกับค่าสายตาที่คุณต้องใส่(แต่ละโครงสร้างมุมมองก็จะได้กว้างและแคบไม่เหมือนกัน) ดังนั้นหาก ค่า PD มีการผิดเพี้ยนไปอย่างล่ะ2-3มม.ขึ้นไปนั้น อาจหมายความว่าคุณกำลังมองส่วนที่ เป็นค่าเฉลี่ยของค่าสายตาแทนที่จะต้องมองที่ค่าสายตาที่ควรจะมองแล้วมันจะมีผลอย่างไรต่อผู้สวมใส่??? แยกเป็นส่วนๆได้ดังนี้ — เมื่อคุณไปตัดแว่นใหม่ ผลคือใส่ไม่ได้ เพราะค่าพารามิเตอร์ที่คุณไม่คุ้นเคย —————————————————— — ผลที่ใส่ไม่ได้นี้ จะทำให้คุณมีอาการ เวียนศีรษะ ปวดตา มองไม่ชัดเจนเหมือนแว่นเดิม —————————————————— — สุดท้ายอันนี้เจอได้ในแต่ละกรณี คุณจะกลายเป็นคนที่ต้องใช้เเละใส่เลนส์ที่เป็นปริซึมแทน (ในบางราย) เพราะค่าเฉลี่ยที่คุณใส่และใช้ในแว่นเดิมนั้นๆ ร้านจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคือค่าที่เท่าไรซึ่งในเลนส์ทั่วไปก็ไม่สามารถสวมใส่ได้ อีกทั้งการจะใช้เลนส์ปริซึมต้องได้รับการตรวจและการพิจารณาจากจักษุแพทย์ก่อนเสมอทุกครั้ง ถึงจะรู้ได้ว่าคุณควรจะต้องใส่เลนส์ชนิดที่เป็น #ปริซึม หรือไม่ ดังนั้น…การวัดค่า PD center // FH Fitting // และค่าพารามิเตอร์ต่างๆในการตัดแว่นตาของที่ […]
เลนส์แว่นตามีอายุการใช้งานกี่ปี?
เลนส์แว่นตาหลักๆแล้วมีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปีหรือมากกว่านี้ได้เล็กน้อย หากใส่เกิน2ปีจะมีปัญหาต่อสายตาหรือการมองไหม? ไม่มีปัญหามากถึงขนาดทำให้สายตาเปลี่ยนแปลง แต่จะทำให้ไม่สบายตา สร้างความรำคาญ เพราะมองไม่ชัดที่เลนส์เป็นรอยขีดข่วนมากมาย เกิดภาพซ้อน ภาพขุ่นมัว สีไม่สดใส ทำความสะอาดยากขึ้น ไม่สามารถกันรังสียูวีหรือตัดแสงสะท้อนได้ไม่ดีพอเหมือนตอนที่ใช้เลนส์แว่นตาใหม่ๆ จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมถึงต้องเปลี่ยนเลนส์แว่นตาใหม่ทุกๆ2ปี อีกทั้งเราจะได้มีการตรวจสุขภาพตา มีการตรวจวัดสายตา เพื่อให้ทราบถึงปัญหาของดวงตาว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เป็นอยู่หรือไม่ เพราะเมื่อเรารู้ปัญหาของสุขภาพตาแต่แรกเริ่มการรักษาหรือบรรเทาจะทำง่ายกว่าปล่อยไว้นานๆ
เลนส์ย่อบาง แบบนี้ดี จริงหรือ ?
เลนส์ย่อบาง เลนส์ที่มีความบางคือเลนส์ที่ดี ส่วนเลนส์ที่ไม่ดีคือเลนส์ที่ไม่บาง จริงหรือ? จะกล่าวว่าเลนส์ที่มีความบางทำให้การมองภาพได้ดีนั้น อาจจะจริง แต่อาจไม่ได้จริงทั้งหมด เลนส์ที่ออกแบบมาสำ หรับค่าสายตามากๆ ส่วนใหญ่จะใช้การขัดเลนส์แบบ แบน2ด้าน(DAS) ข้อดี คือ ให้มุมมองที่กว้าง มีการบืดเบือนของภาพที่น้อยกว่า แต่เลนส์ยังมีดัชนีการหักเหของแสงที่มีค่าเป็น index อีก มีทั้ง1.56/1.6/1.67/1.70/1.74/1.76 ซึ่งค่าAbbe แต่ล่ะ Index ก็จะแตกต่างกัน ค่าAbbe เป็นตัววัดการผ่านของแสง ยิ่งค่าAbbeมาก (จะอยู่ในเลนส์ที่ index ไม่สูง) แสงผ่านได้ดีกว่าเลนส์ที่มีค่าAbbe น้อย (จะอยู่ในเลนส์ที่ index สูงๆ) ซึ่ง index นี้ ที่ทำให้เลนส์มีการผ่านของแสงแตกต่างกันออกไป ดังนั้น หากเลือกเลนส์ที่มี index สูงๆ สิ่งที่จะได้คือ เลนส์ที่มีความบาง เลนส์ที่มีน้ำหนักเบา มีความสวยงามในด้านการมองที่เลนส์แลดูไม่หนา น่าเกลียด แต่ค่าAbbe ก็จะต่ำ ก็ต้องได้อย่างเสียอย่าง ส่วนเลนส์ที่ index ไม่สูงมาก จะให้การผ่านแสงได้ดีกว่า แต่ปัญหาที่ตามมาคือขาดความสวยงามของเลนส์ที่ล้นกรอบแว่น แลดูมีน้ำหนัก ต้องใส่กับกรอบเต็มเท่านั้น และหากใช้กับโครงสร้างเลนส์ในแบบโค้งปกติ […]
มีคนบอกว่า ใส่เลนส์โปรเกรสซิฟแล้วเวียนหัว ?
#เลนส์โปรเกรสซิฟ คือ เลนส์ไร้รอยต่อที่สามารถมองได้ทั้งระยะไกล ระยะกลาง ระยะใกล้ได้ทุกระยะ การมองได้ทุกระยะ เพราะมี power ของเลนส์หลาย power รวมกันอยู่ในเลนส์1แผ่น พอมี power มารวมกันการมองจะเกิดได้หลายระยะมาก หากสวมใส่แล้วมีการเหลือบของตาที่ไม่ตรงจุดกับโฟกัสที่จะใช้มอง อาจทำให้ได้ภาพที่ไม่ชัดเจนมากกว่าการเวียนศีรษะ แต่!!!! การเวียนศีรษะจากการสวมใส่โปรเกรสซิฟนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ แต่มีองค์ประกอบโดยรวมอย่างอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น -การให้ค่าสายตาที่เหมาะสมและถูกต้องหรือไม่ก่อนเป็นอันดับแรก -การแนะนำเลนส์ที่ดีและเหมาะสมกับปัญหาที่เป็นอยู่ซึ่งเลนส์ที่ดีจะช่วยเรื่องการปรับตัวในการสวมใส่แว่นตาได้ง่ายกว่าเลนส์ที่มีช่วงเหลือบที่แคบๆ -การวัดค่าPARAMETERที่แม่นยำและถูกต้องหรือไม่ -การประกอบที่ดีหรือไม่ -การให้คำอธิบายเกี่ยวกับเลนส์เพื่อให้เข้าใจเลนส์มากขึ้น เพื่อให้การปรับตัวและการใช้งานเป็นไรทีละขั้นตอนอย่างค่อยเป็นค่อยไป และยังมีองค์ประกอบมากมายที่การทำแว่นตาสำหรับเลนส์โปรเกรสซิฟให้สวมใส่สบาย แม้กระทั้งการดัดแว่นตายังช่วยให้การมองสำหรับในเลนส์หลายๆตัวดีขึ้นได้ ถึงคุณไม่ต้องใส่โปรเกรสซิฟเลนส์ แต่แค่ใส่เลนส์ single vision ชั้นเดียวเมื่อมีการเปลี่ยนเเว่นตาใหม่ ในแต่ล่ะครั้งก็ยังต้องปรับตัว อาจเวียนศีรษะ พื้นลอย ภาพไม่คุ้น ในบางรายอาจหัวปวดได้เลยในช่วงแรกๆเท่านั้น หากการทำแว่นตาถูกต้องทุกอย่าง ฉะนั้นหากจะบอกว่าใส่เลนส์โปรเกรสซิฟแล้วจะเวียนศีรษะ คงไม่จริงทั้งหมดและไม่จริงเสมอไป หากการทำแว่นตา 1 ตัว ทำได้ดีและถูกต้องที่สุด การใส่โปรเกรสซิฟเลนส์หรือเลนส์ไหนๆก็ไม่เจอปัญหาเวียนศีรษะมากจนคุณรับไม่ได้อย่างแน่นอน
อยากได้เลนส์โปรเกรสซีฟที่ไม่มีการบืดเบือนของภาพเลย..จะมีไหม?
“ภาพบิดเบือน หรือ Distortion จากการใส่เลนส์โปรเกรสซีฟ ” มักเกิดขึ้นด้านข้างของเลนส์ เนื่องจากโปรเกรสซีฟเป็นเลนส์ที่มองได้ทุกระยะเพื่อรองรับค่าสายตาที่หลากหลาย ทั้งสายตาสั้น สายตาเอียง และสายตายาวทำให้เลนส์มีความโค้ง จึงต้องขัดเลนส์ออกแบบเลนส์ ให้เป็นเนื้อเดียว จึงเกิดโซนบิดเบือนด้านข้างเลนส์ซึ่งอย่างไรก็ต้องมีแน่นอน แม้แต่เลนส์ชั้นเดียวก็ยังมีพื้นที่บืดเบือน(Distortion) แต่!!!! Distortion นี้มันจะอยู่ส่วนไหนของเลนส์ ซึ่งตรงนี้เองที่ต้องมาจัดการให้เรียบร้อยให้เหมาะสมกับผู้สวมใส่ว่า ควรจะจัดจุดที่ดีของการมองไว้ตรงไหนไม่ให้จุดบืดเบือนมากวนตากวนใจในการมองนั้นเอง ซึ่งการจัดวางนี้ก็อยู่ที่ การ fitting การวัดค่าparameterต่างๆ ให้ถูกต้องและประกอบระนาบของเลนส์ให้ตรงตามที่เราfitting ด้วย ก็จะช่วยลดจุดบืดเบือนของเลนส์ที่มากวนการมองให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับสายตาและการใช้โครงสร้างเลนส์ที่เหมาะสมด้วยอีกด้วย ไม่ใช่สายตาสั้น+สายตายาวมากแต่ใช้เลนส์ที่ออกแบบมาแคบหรือไม่ดี ต่อให้จะจัดวางจุดบืดเบือนให้ได้ดี แต่หากเลนส์ไม่เหมาะกับปัญหาค่าสายตาที่ตรวจพบ ก็ทำได้ยากที่จะให้มีDistortionน้อยๆ ทำให้ผู้ใช้ปรับตัวยากและสวมใส่ลำบาก หากดวงตาของคุณไปเหลือบเจอโฟกัสที่ด้านข้างๆตรงนี้ จะทำให้เห็นภาพบิดเบี้ยว ภาพไหวๆ พื้นโค้งนูน มักจะทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะนั้นเอง การปรับตัว คือ เมื่อต้องการมองด้านข้างขณะใส่เลนส์โปรเกรสซีฟ แนะนำให้หันหน้าไปมา โดยในดวงตากับแว่นตาหันไปพร้อมๆกันเพื่อมอง ไม่ควรเหลือบตาไปมาซ้ายขวาผ่านโซนที่มีภาพบิดเบือน จะยิ่งทำให้เกิดภาพที่ไม่สบายตาได้
แสงสีฟ้า มีผลต่อปัญหาสายตาหรือไม่ ?
แสงสีฟ้า แสงสีฟ้านั้นมีในชั้นบรรยากาศทั่วไปอยู่แล้ว แต่สิ่งที่มาจากหลอดไฟ จอLED มือถือ คอมพิวเตอร์ นั้นเป็นสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาในยุคดิจิตอลที่ก็มีแสงสีฟ้านี้มาด้วยยิ่งทำให้ดวงตาเราสัมผัสหรือโดนแสงสีฟ้าชนิดนี้ยิ่งมีมากขึ้น ซึ่งแสงสีฟ้าก็มีทั้งชนิดที่ไม่ดีและชนิดที่ดี ขอกล่าวถึงในแสงสีฟ้าชนิดที่ไม่ดีให้ได้ทราบ ดังนี้ แสงสีฟ้า ชนิดที่ไม่ดี จะเป็นตัวที่ค่อยๆ ทำร้ายดวงตาเราอย่างช้าๆไปจนถึง อาจให้เป็นโรคตาที่ร้ายแรงได้ ในบ้างราบ เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อม แต่แสงสีฟ้าไม่ได้มีผลต่อดวงตาในด้านของสายตา คือไม่ทำให้เกิดเป็นค่าสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียงแต่อย่างใดทั้งสิ้น ในรายที่ใช้การมองระยะใกล้มากๆเป็นเวลายาวนาน แล้วเกิดการมองไกลไม่ชัดเจนนั้น เป็นผลมาจากเลนส์ตาที่เกิดการหดเกร็งมากจนนานเกินที่ไม่มีการผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา เลนส์ตา เมื่อมีการตรวจวัดสายตาด้วยระบบคอมพิวเตอร์ก็จะเกิดเป็นค่าสายตาขึ้นมา ส่วนใหญ่จะเกิดเป็นสายตาสั้นเทียมมากกว่าสายตาสั้นจริง หากในรายที่ไม่ได้มีสายตาแต่แรกเริ่มหรือไม่ได้ใส่แว่นอยู่ก่อนแล้ว และในรายที่ใส่แว่นตาอยู่แล้วอาจเกิดการเปลี่ยนของสายตาได้ แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแสงสีฟ้าแต่อย่างใด ฉะนั้นหากจะกล่าวว่าแสงสีฟ้านี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนของเลนส์ตาจนมีค่าสายตานั้น..คงไม่ใช่ แต่เป็นที่เลนส์ตา กล้ามเนื้อตาที่ใช้ในการเพ่งระยะใกล้มากเกินไป อ่านหนังสือ เล่นมือถือ ใช้สายตาดูคอมพิวเตอร์ ใช้สายตาในที่แสงสว่างมีน้อย จึงเกิดเป็นสภาวะสายตาขึ้นมา(ในกรณีที่ไม่ได้มีสายตาแต่แรกเริ่ม)
เลือกกรอบเเว่นแบบไหนดี ?
กรอบแว่น ทุกวันนี้มีให้เลือกมากมาย ทั้ง กรอบเจาะ กรอบเต็ม กรอบเซาะร่อง ร้านแว่นตาCHIC optical จะมาแนะนำการเลือกกรอบที่เหมาะสมสำหรับเลนส์ต่างๆ เพราะกรอบแว่นมีผลต่อการเลือกเลนส์ ความหนาและบางของเลนส์ รวมไปถึงมีผลต่อการมองเห็นได้โดยเฉพาะการทำเลนส์โปรเกรสซีฟ… ประเภทของกรอบแว่นตา แบ่งได้ดังนี้ แว่นตาแบบกรอบเต็ม #Fullframe กรอบเต็ม คือ กรอบที่มีขอบล้อมรอบทั้งตัวเลนส์ ข้อดี คือ จะเก็บขอบความหนาของเลนส์ได้ดี ช่วยลดการแตกหักหรือเลนส์บิ่น กรณีทำแว่นตกหล่นเพราะมีกรอบคอยป้องกันเลนส์ไว้ ข้อเสีย คือ กรณี สายตามากๆ หรือใช้เลนส์ที่ไม่ได้ย่อบาง กรอบจะมีน้ำหนักมากกว่ากรอบชนิดอื่นๆ อาจทำให้ใส่ไม่สบายด้วยน้ำหนักเลนส์และขอบที่หนาๆ อาจทำให้บางเคสเห็นขอบแล้วรู้สึกมองเห็นขอบแว่นอยู่ตลอดเวลา กรอบแว่นแบบเจาะ หรือ แว่นไร้กรอบ #Rimless กรอบเจาะ คือ กรอบที่ไม่มีขอบของกรอบโดยรอบ จะใช้การยึดเลนส์ด้วยน็อต หรือ บูธ สำหรับการยึดที่เลนส์ ข้อดี คือ กรอบชนิดนี้จะมีน้ำหนักเบา ใส่เข้ากับรูปหน้าได้ง่าย สามารถดีไซน์รูปทรงเลนส์ตามที่ต้องการได้ ปรับขนาดเลนส์ได้ง่าย ข้อเสีย คือ แต่เลนส์ที่ใช้ ต้องเป็นเลนส์เหนียวเท่านั้น สำหรับกรอบชนิดนี้ คือ เลนส์เนื้อเหนียวเท่านั้น เช่น ย่อบาง 1.6 หรือเลนส์ trivex […]