มีคนบอกว่า ใส่เลนส์โปรเกรสซิฟแล้วเวียนหัว ?

#เลนส์โปรเกรสซิฟ คือ เลนส์ไร้รอยต่อที่สามารถมองได้ทั้งระยะไกล ระยะกลาง ระยะใกล้ได้ทุกระยะ การมองได้ทุกระยะ เพราะมี power ของเลนส์หลาย power รวมกันอยู่ในเลนส์1แผ่น พอมี power มารวมกันการมองจะเกิดได้หลายระยะมาก หากสวมใส่แล้วมีการเหลือบของตาที่ไม่ตรงจุดกับโฟกัสที่จะใช้มอง อาจทำให้ได้ภาพที่ไม่ชัดเจนมากกว่าการเวียนศีรษะ แต่!!!! การเวียนศีรษะจากการสวมใส่โปรเกรสซิฟนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ แต่มีองค์ประกอบโดยรวมอย่างอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น      -การให้ค่าสายตาที่เหมาะสมและถูกต้องหรือไม่ก่อนเป็นอันดับแรก      -การแนะนำเลนส์ที่ดีและเหมาะสมกับปัญหาที่เป็นอยู่ซึ่งเลนส์ที่ดีจะช่วยเรื่องการปรับตัวในการสวมใส่แว่นตาได้ง่ายกว่าเลนส์ที่มีช่วงเหลือบที่แคบๆ      -การวัดค่าPARAMETERที่แม่นยำและถูกต้องหรือไม่      -การประกอบที่ดีหรือไม่      -การให้คำอธิบายเกี่ยวกับเลนส์เพื่อให้เข้าใจเลนส์มากขึ้น เพื่อให้การปรับตัวและการใช้งานเป็นไรทีละขั้นตอนอย่างค่อยเป็นค่อยไป และยังมีองค์ประกอบมากมายที่การทำแว่นตาสำหรับเลนส์โปรเกรสซิฟให้สวมใส่สบาย แม้กระทั้งการดัดแว่นตายังช่วยให้การมองสำหรับในเลนส์หลายๆตัวดีขึ้นได้ ถึงคุณไม่ต้องใส่โปรเกรสซิฟเลนส์ แต่แค่ใส่เลนส์ single vision ชั้นเดียวเมื่อมีการเปลี่ยนเเว่นตาใหม่ ในแต่ล่ะครั้งก็ยังต้องปรับตัว อาจเวียนศีรษะ พื้นลอย ภาพไม่คุ้น ในบางรายอาจหัวปวดได้เลยในช่วงแรกๆเท่านั้น หากการทำแว่นตาถูกต้องทุกอย่าง ฉะนั้นหากจะบอกว่าใส่เลนส์โปรเกรสซิฟแล้วจะเวียนศีรษะ คงไม่จริงทั้งหมดและไม่จริงเสมอไป หากการทำแว่นตา 1 ตัว ทำได้ดีและถูกต้องที่สุด การใส่โปรเกรสซิฟเลนส์หรือเลนส์ไหนๆก็ไม่เจอปัญหาเวียนศีรษะมากจนคุณรับไม่ได้อย่างแน่นอน

อยากได้เลนส์โปรเกรสซีฟที่ไม่มีการบืดเบือนของภาพเลย..จะมีไหม?

“ภาพบิดเบือน หรือ Distortion จากการใส่เลนส์โปรเกรสซีฟ ” มักเกิดขึ้นด้านข้างของเลนส์ เนื่องจากโปรเกรสซีฟเป็นเลนส์ที่มองได้ทุกระยะเพื่อรองรับค่าสายตาที่หลากหลาย ทั้งสายตาสั้น สายตาเอียง และสายตายาวทำให้เลนส์มีความโค้ง จึงต้องขัดเลนส์ออกแบบเลนส์ ให้เป็นเนื้อเดียว จึงเกิดโซนบิดเบือนด้านข้างเลนส์ซึ่งอย่างไรก็ต้องมีแน่นอน แม้แต่เลนส์ชั้นเดียวก็ยังมีพื้นที่บืดเบือน(Distortion) แต่!!!! Distortion นี้มันจะอยู่ส่วนไหนของเลนส์ ซึ่งตรงนี้เองที่ต้องมาจัดการให้เรียบร้อยให้เหมาะสมกับผู้สวมใส่ว่า ควรจะจัดจุดที่ดีของการมองไว้ตรงไหนไม่ให้จุดบืดเบือนมากวนตากวนใจในการมองนั้นเอง ซึ่งการจัดวางนี้ก็อยู่ที่ การ fitting การวัดค่าparameterต่างๆ ให้ถูกต้องและประกอบระนาบของเลนส์ให้ตรงตามที่เราfitting ด้วย ก็จะช่วยลดจุดบืดเบือนของเลนส์ที่มากวนการมองให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับสายตาและการใช้โครงสร้างเลนส์ที่เหมาะสมด้วยอีกด้วย ไม่ใช่สายตาสั้น+สายตายาวมากแต่ใช้เลนส์ที่ออกแบบมาแคบหรือไม่ดี ต่อให้จะจัดวางจุดบืดเบือนให้ได้ดี แต่หากเลนส์ไม่เหมาะกับปัญหาค่าสายตาที่ตรวจพบ ก็ทำได้ยากที่จะให้มีDistortionน้อยๆ ทำให้ผู้ใช้ปรับตัวยากและสวมใส่ลำบาก หากดวงตาของคุณไปเหลือบเจอโฟกัสที่ด้านข้างๆตรงนี้ จะทำให้เห็นภาพบิดเบี้ยว ภาพไหวๆ พื้นโค้งนูน มักจะทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะนั้นเอง การปรับตัว คือ เมื่อต้องการมองด้านข้างขณะใส่เลนส์โปรเกรสซีฟ แนะนำให้หันหน้าไปมา โดยในดวงตากับแว่นตาหันไปพร้อมๆกันเพื่อมอง ไม่ควรเหลือบตาไปมาซ้ายขวาผ่านโซนที่มีภาพบิดเบือน จะยิ่งทำให้เกิดภาพที่ไม่สบายตาได้ 

แสงสีฟ้า มีผลต่อปัญหาสายตาหรือไม่ ?

แสงสีฟ้า มีผลต่อปัญหาสายตาหรือไม่ ?

แสงสีฟ้า  แสงสีฟ้านั้นมีในชั้นบรรยากาศทั่วไปอยู่แล้ว แต่สิ่งที่มาจากหลอดไฟ จอLED มือถือ คอมพิวเตอร์ นั้นเป็นสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาในยุคดิจิตอลที่ก็มีแสงสีฟ้านี้มาด้วยยิ่งทำให้ดวงตาเราสัมผัสหรือโดนแสงสีฟ้าชนิดนี้ยิ่งมีมากขึ้น ซึ่งแสงสีฟ้าก็มีทั้งชนิดที่ไม่ดีและชนิดที่ดี ขอกล่าวถึงในแสงสีฟ้าชนิดที่ไม่ดีให้ได้ทราบ ดังนี้ แสงสีฟ้า ชนิดที่ไม่ดี จะเป็นตัวที่ค่อยๆ ทำร้ายดวงตาเราอย่างช้าๆไปจนถึง อาจให้เป็นโรคตาที่ร้ายแรงได้ ในบ้างราบ เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อม แต่แสงสีฟ้าไม่ได้มีผลต่อดวงตาในด้านของสายตา คือไม่ทำให้เกิดเป็นค่าสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียงแต่อย่างใดทั้งสิ้น ในรายที่ใช้การมองระยะใกล้มากๆเป็นเวลายาวนาน แล้วเกิดการมองไกลไม่ชัดเจนนั้น เป็นผลมาจากเลนส์ตาที่เกิดการหดเกร็งมากจนนานเกินที่ไม่มีการผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา เลนส์ตา เมื่อมีการตรวจวัดสายตาด้วยระบบคอมพิวเตอร์ก็จะเกิดเป็นค่าสายตาขึ้นมา ส่วนใหญ่จะเกิดเป็นสายตาสั้นเทียมมากกว่าสายตาสั้นจริง หากในรายที่ไม่ได้มีสายตาแต่แรกเริ่มหรือไม่ได้ใส่แว่นอยู่ก่อนแล้ว และในรายที่ใส่แว่นตาอยู่แล้วอาจเกิดการเปลี่ยนของสายตาได้ แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแสงสีฟ้าแต่อย่างใด ฉะนั้นหากจะกล่าวว่าแสงสีฟ้านี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนของเลนส์ตาจนมีค่าสายตานั้น..คงไม่ใช่ แต่เป็นที่เลนส์ตา กล้ามเนื้อตาที่ใช้ในการเพ่งระยะใกล้มากเกินไป อ่านหนังสือ เล่นมือถือ ใช้สายตาดูคอมพิวเตอร์ ใช้สายตาในที่แสงสว่างมีน้อย จึงเกิดเป็นสภาวะสายตาขึ้นมา(ในกรณีที่ไม่ได้มีสายตาแต่แรกเริ่ม) 

เลือกกรอบเเว่นแบบไหนดี ?

กรอบแว่น ทุกวันนี้มีให้เลือกมากมาย ทั้ง กรอบเจาะ กรอบเต็ม กรอบเซาะร่อง ร้านแว่นตาCHIC optical จะมาแนะนำการเลือกกรอบที่เหมาะสมสำหรับเลนส์ต่างๆ เพราะกรอบแว่นมีผลต่อการเลือกเลนส์ ความหนาและบางของเลนส์ รวมไปถึงมีผลต่อการมองเห็นได้โดยเฉพาะการทำเลนส์โปรเกรสซีฟ… ประเภทของกรอบแว่นตา แบ่งได้ดังนี้ แว่นตาแบบกรอบเต็ม #Fullframe กรอบเต็ม คือ กรอบที่มีขอบล้อมรอบทั้งตัวเลนส์ ข้อดี คือ จะเก็บขอบความหนาของเลนส์ได้ดี ช่วยลดการแตกหักหรือเลนส์บิ่น  กรณีทำแว่นตกหล่นเพราะมีกรอบคอยป้องกันเลนส์ไว้ ข้อเสีย คือ กรณี สายตามากๆ หรือใช้เลนส์ที่ไม่ได้ย่อบาง กรอบจะมีน้ำหนักมากกว่ากรอบชนิดอื่นๆ อาจทำให้ใส่ไม่สบายด้วยน้ำหนักเลนส์และขอบที่หนาๆ อาจทำให้บางเคสเห็นขอบแล้วรู้สึกมองเห็นขอบแว่นอยู่ตลอดเวลา กรอบแว่นแบบเจาะ หรือ แว่นไร้กรอบ #Rimless กรอบเจาะ คือ กรอบที่ไม่มีขอบของกรอบโดยรอบ จะใช้การยึดเลนส์ด้วยน็อต  หรือ บูธ สำหรับการยึดที่เลนส์ ข้อดี คือ กรอบชนิดนี้จะมีน้ำหนักเบา ใส่เข้ากับรูปหน้าได้ง่าย สามารถดีไซน์รูปทรงเลนส์ตามที่ต้องการได้ ปรับขนาดเลนส์ได้ง่าย ข้อเสีย คือ แต่เลนส์ที่ใช้ ต้องเป็นเลนส์เหนียวเท่านั้น สำหรับกรอบชนิดนี้ คือ เลนส์เนื้อเหนียวเท่านั้น เช่น ย่อบาง 1.6 หรือเลนส์ trivex  […]

ตัดเเว่น เด็กที่ไหนดี….?

พาเด็กๆ ตรวจวัดสายตา ตัดแว่น ที่ไหนดี? เมื่อเด็กๆรู้สึกมองเห็นอะไร ไม่ชัดเจน เช่น มองกระดานห้องเรียนไม่ชัด มองทีวีระยะ 2.5เมตร ไม่ชัด ต้องหรี่ตามอง  หรือใช้สายตามองระยะไกลๆ แล้วหรี่ตา เพ่ง หรือต้องเด็กเข้าไปใกล้ๆ ถึงมองได้ เด็กๆอาจกำลังมีปัญหาทางด้านสายตาอยู่หรือไม่? แล้วหากเด็กมีปัญหาสายตา ควรต้องพาไปตรวจ วัดสายตา และ ตัดแว่นตา ที่ไหนดี? การตรวจวัด สายตาเด็ก สามารถเเบ่งออกเป็นช่วงตามอายุและปัจจัยของการใส่แว่นตา ทางร้านแว่นตาCHIC optical. เราแบ่งลักษณะการตรวจดังนี้ กรณี เด็กเล็ก อายุไม่ถึง 10 ปี ทั้งเคยใส่แว่นตา หรือไม่เคยใส่แว่นตา แนะนำให้ตรวจสายตากับจุกษุแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น  เนื่องจากการตรวจวัดสายตาในเด็ก อาจต้องใช้การขยายม่านตาในการตรวจ เพื่อหาค่าสายตาที่แท้จริง  คำถาม*** แล้วทำไมถึงตรวจกับที่ร้านไม่ได้ เนื่องจาก ร้านแว่นตา ไม่สามารถใช้ยาขยายม่านตาในการตรวจให้กับเด็กได้ อีกทั้งเด็กที่อายุต่ำกว่า 10 ปี ตรวจด้วยเครื่องวัดสายตาระบบคอมพิวเตอร์จะไม่ได้ค่าสายตาที่แท้จริง เพราะเมื่อเด็กจ้องเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ ดวงตาจะมีการเพ่งอัตโนมัติซึ่ง ทำให้ได้ค่าสายตาที่อาจเกิดการโอเวอร์มากเกินความจะเป็นไปได้ ส่งผลต่อการใช้สายตาที่ค่าสายตาไม่เหมาะสมทำให้มีผลเสียในระยะยาวได้ เช่น ตาเหล่ ตาเขในเด็ก กรณี เด็ก อายุเกิน 10ปี ขึ้นไป […]

เลนส์โปรเกรสซีฟ รู้จักข้อดี ข้อเสีย ก่อนเริ่มใช้งาน

เลนส์โปรเกรสซีฟ ข้อดีข้อเสีย

เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive lenses) เป็นเลนส์ไร้รอยต่อที่ใช้สำหรับการมองในระยะไกล ระยะปกติ หรือระยะใกล้ภายในเลนส์เดียว  เลนส์โปรเกรสซีฟอาจเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาสายตายาวตามอายุ (Presbyopia) หรือภาวะที่มองเห็นในระยะใกล้ไม่ชัดเจน    ผู้ที่มีปัญหาสายตาอื่นๆ  เช่น สายตาสั้น และ สายตาเอียง สามารถใช้เลนส์โปรเกรสซีฟได้ โดยเลนส์โปรเกรสซีฟจะช่วยปรับระยะการมองเห็นในเหมาะสม  ดังนั้นเราควรมาทำความรู้จัก ข้อดี-ข้อเสียของเลนส์โปรเกรสซีฟ ก่อนเริ่มใช้งานกัน ข้อดีของเลนส์โปรเกรสซีฟ 1.ไม่จำเป็นต้องพกแว่นตาหลายอัน     เลนส์โปรเกรสซีฟอาจช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่มีปัญหาสายตา เนื่องจากคุณสมบัติของเลนส์โปรเกรสซีฟช่วยให้มองเห็นได้หลายระยะมากขึ้น ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน แว่นตาหรือพกแว่นตาหลายอัน เพื่อใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น ใช้แว่นตาสำหรับอ่านหนังสือ ใช้แว่นสายตายาวหรือสายตาสั้นเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ   ซึ่งแต่ละส่วนของเลนส์ จะให้ภาพการมองเห็นที่แตกต่างกัน *ส่วนบนของเลนส์โปรเกรสซีฟ เหมาะสำหรับการมองเห็นในระยะไกล *ส่วนกลางของเลนส์โปรเกรสซีฟ เหมาะสำหรับการมองเห็นในระยะกลาง  *ส่วนล่างของเลนส์โปรเกรสซีฟ เหมาะสำหรับการมองเห็นในระยะใกล้  2.เลนส์ไร้รอยต่อ ทำให้ไม่เกิดภาพกระโดด  ภาพกระโดดนี้ เกิดจากการเปลี่ยนจุดโฟกัสในการมองระหว่างเลนส์ระยะไกลและเลนส์ระยะใกล้อย่างกะทันหันเมื่อใช้เลนส์ 2 ชั้นหรือ เลนส์ที่มีรอยต่อ(Bifucal) ทำให้ภาพของตำแหน่งเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเลนส์โปรเกรสซีฟเป็นเลนส์ไร้รอยต่อ เมื่อเปลี่ยนจุดมองผ่านเลนส์ในระยะต่าง ๆ ภาพที่เห็นอาจดูลื่นไหลยิ่งขึ้นและไม่ก่อให้เกิดภาพกระโดด  3.ทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนใส่เเว่นชั้นเดียวและรู้สึกอ่อนวัย  การใช้ เลนส์โปรเกรสซีฟ อาจทำให้ดูอ่อนวัยยิ่งขึ้นเพราะคล้ายกับแว่นตาชั้นเดียวทั่วไป เพราะไม่มีรอยต่อระหว่างเลนส์  ในขณะที่การใช้เลนส์ 2 […]

Rodenstock DNEye® scanner

Individualised lenses with the revolutionary DNEye® eye measurement  เครื่องตรวจวัดสายตา  ที่ดีครบ จบในการวัดเพียงครั้งเดียว ด้วย DNEye Scanner เทคโนโลยีเครื่องตรวจสายตาล่าสุด     #เครื่องมือตรวจวัดสายตา เฉพาะบุคคลที่มีความแม่นยำสูง โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Wave front ในการตรวจวัดและแสดงผลออกมา โดย DNEye สามารถหาค่าความเบี่ยงเบนระดับต่ำที่ทำให้เกิดความผิดปกติ (Low order aberration) คือ สายตาสั้น ยาว และเอียง และสามารถวัดความเบี่ยงเบนในระดับสูง (High order aberration) คือความผิดปกติของดวงตาที่อยู่ในระดับที่ระเอียดยิ่งขึ้น ที่เครื่องมือวัดสายตาที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถวัดได้ โดยจะคำนวณจากขนาดของรูม่านตา(pupil) ที่เปลี่ยนไปในทุกสภาวะการมองและทุกสภาะแสง ทำให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำและสามารถนำมาคำนวณแล้วนำไปใช้ในการผลิตเลนส์ เพื่อให้การมองเห็นที่คมชัดที่สุดในทุกระยะและทุกสภาวะแสง และเป็นแว่นตาเฉพาะบุคคลอย่างแท้จริง….        

สายตายาว40+ ต้องใส่เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive) จริงหรือไม่….

เมื่อสายตายาว เรามักจะเคยในได้ยินเกี่ยวกับเลนส์ที่แก้ไขสายตายาว สามารถมองได้ทั้งระยะไกลและใกล้ได้ในอันเดียวกันนั้นคือ #เลนส์โปรเกรสซีฟ ที่ช่วยเเก้ไขปัญหาต่างๆของคนในวัย40+ เมื่ออายุ 40 ปี ขึ้นไป เรามักจะเจอกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสายตา เช่น ปัญหาการมองเห็นที่เสื่อมลง โดยเฉพาะในการมองเห็นวัตถุที่อยู่ในระยะใกล้ เรียกว่า ภาวะสายตายาวตามอายุ (Presbyopia) ซึ่งเกิดจากการที่กล้ามเนื้อรอบๆ ดวงตาเสื่อมสภาพลง ทำให้เมื่อต้องการปรับเปลี่ยนระยะเพื่อมองเห็นสิ่งของใกล้ๆ ทำให้มีความลำบากในการอ่านหรือการมองวัตถุในระยะใกล้ และบางครั้งอาจมีความลำบากในการมองในระยะปกติอีกด้วย ซึ่งการใส่เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive lenses) จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ แต่…ทุกคนที่อายุ 40+ ขึ้นไป เมื่อมีปัญหาสายตายาวตามวัยนั้น ยังจำเป็นไหม…ที่ต้องใส่เลนส์โปรเกรสซีฟ ? อาจจะไม่จำเป็นเสมอไป ที่คนอายุ 40 ปี+ แล้วมีปัญหาสายตายาว จะต้องใส่เลนส์โปรเกรสซีฟเสมอไป  เนื่องจากการใส่เลนส์โปรเกรสซีฟจะขึ้นอยู่กับความต้องการและความสะดวกสบายในแต่ละบุคคลมากกว่า บางคนอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นในระยะใกล้ (Presbyopia) ก็อาจจะใส่เเว่นแค่ตอนอ่านหนังสือหรือมองในระยะใกล้ ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเลนส์โปรเกรสซีฟ อาจใช้เลนส์ชั้นเดียว(single vision) หรือบางคนมีปัญหาการมองเห็นอื่นๆ เช่น สายตาสั้นร่วมกับสายตายาวด้วย กรณีนี้มีความจำเป็นในการใส่แว่นตลอดเวลา ทำให้ต้องใส่เลนส์โปรเกรสซีฟเพื่อความสะดวก ดังนั้นการที่ต้องใส่เลนส์โปรเกรสซีฟหรือไม่นั้น จึงเป็นเรื่องของความจำเป็นในการใช้งานแว่นตาในชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลและความสะดวกในการใช้เลนส์ของแต่ละบุคคลมากกว่า แล้วการเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟที่ดี ควรพิจารณาจากอะไรบ้าง? การเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบในหลายๆส่วน โดยพิจารณาจากความต้องการ ปัญหาสายตาที่ต้องการแก้ไขในแต่ละเคส […]

ตัดเเว่น โปรเกรสซีฟ ที่ไหนดี?

กำลังตัดเเว่นโปรเกรสซีฟ…แนะนำร้านไหนดี?   เลนส์โปรเกรสซีฟ เฉพาะบุคคล ที่ CHIC optical. เพราะดวงตามีเพียงคู่เดียว คุณจึงควรเลือกตัดเเว่นโปรเกรสซีฟกับผู้เชี่ยวชาญในการตรวจวัดสายตาที่ดีและเข้าใจปัญหาสายตาอย่างแท้จริง เนื่องจากเลนส์โปรเกรสซีฟ ถือว่าเป็นเลนส์ที่มีรายละเอียดที่ต้องละเอียดทั้งการตรวจวัดสายตา การคิดวิเคราะห์ดีไซน์เลนส์ และมีองค์ประกอบอื่นๆอีกมากมายและถือเป็นเลนส์ที่ซับซ้อนมากกว่าเลนส์ชนิดอื่นๆ ดังนั้นการเลือกร้าน ตัดเเว่นโปรเกรสซีฟ ให้ใส่และใช้งานได้ดีนั้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก และเราจึงเป็นหนึ่งในร้านแว่นตาที่ ตัดเเว่นโปรเกรสซีฟ มาแล้วหลายพันคู่โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเลนส์โปรเกรสซีฟ มาที่ร้านแว่นตาCHIC optical คุณจะได้รับการตรวจวัดสายตาด้วยระบบดิจิตอลเฉพาะบุคคลสำหรับ เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens)  ด้วยอุปกรณ์การตรวจวัดสายตาที่ทันสมัยและการวิเคราะห์ปัญหาสายตาแบบองค์รวม การประเมินกายวิภาคตา และออกแบบเลนส์พิเศษเฉพาะบุคคลแบบ เคส บาย เคส ที่นี้ ครบจบ  เพื่อให้คุณได้ เลนส์โปรเกรสซีฟ เพื่อการมองเห็นภาพผ่านเลนส์ได้ดีที่สุด Professional Optacial and Customized Progressive Lens. ทางร้านดูแลคุณตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย เพื่อตัดเลนส์โปรเกรสซีฟให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของเเต่ละบุคคล โดยพิจารณาจากกายวิภาคตา สรีระดวงตา กระจกตา กล้ามเนื้อตา และปัจจัยอื่นๆ เพื่อการดีไซน์เลนส์ให้ออกมาดีที่สุดเฉพาะคุณ เราให้บริการตรวจวิเคราะห์การมองเห็นด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย จากเยอรมัน DNEye Scanner / NIDEX Autorefractor /กล้อง Retinoscopy / เครื่อง Impassionist3D […]

ตัดแว่น อันใหม่แต่ทำไมไม่ชัด ?

เคยไหม… ตัดเเว่น มาเเล้วใส่ไม่ได้ มองไม่ชัดหรือชัดเกินไป ใส่แล้วงง….  แบบนี้ควรทำอย่างไร ?  การทำ แว่นตา สัก 1 อัน เพื่อให้ใส่ได้อย่างสบายตา คมชัด จะขึ้นอยุ่กับองค์ประกอบหลากอย่าง แต่อย่างเเรกที่ควรคำนึง คือ ผู้ที่มีปัญหาด้านสายตาเอง หากคุณมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี โอกาศที่จะได้แว่นตาชัดๆ ก็มีมากกว่าผู้ที่เป็นโรคทางกาย เช่น เบาหวาน ซึ่งจะมีค่าสายตาเปลี่ยนเเปลงบ่อย ดังนั้นคนในกลุ่มนี้จึงมีปัญหาเรื่องเเว่นตาที่มองไม่ชัด ทั้งๆที่เพิ่งตัดแว่นมาได้ไม่ทันไรทำไมมัวอีกแล้ว หรือเป็นโรคความดันตาสูงๆ มาเป็นระยะเวลายาวนาน จอตาจะเกิดการขาดเลือดส่งผลให้ตามัว อย่างไรการแก้ไขด้วยแว่นตาก็ไม่ชัด จึงควรตรวจสุขภาพตาทุกๆ2 ปี หรือ 1ปี ความผิดปกติของสายตา ความผิดปกติทางสายตาที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อความชัดและความมึนงงเมื่อเริ่มใส่แว่นแตกต่างกันด้วย เช่นสายตาเอียงมากในแกนองศาแนวเฉียง (oblique) ทำให้ปรับตัวกับแว่นใหม่ค่อนข้างยากกว่า เพราะการรับรู้ภาพจะเปลี่ยนไป อาจเห็นพื้นเอียงนูน ลึกต่ำลงไปหรือสูงขึ้น แต่สภาวะนี้จะเกิดขึ้นในระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน (ขึ้นอยู่กับสายตาเอียงมากหรือน้อย) แล้วหลังจากนั้นสมองจะปรับได้เอง คุณก็จะเห็นพื้นเรียบ ภาพปกติขึ้น  แต่มีบางกรณีที่แก้ไขสายตาให้ได้ไม่หมด หรือแก้ไขในสายตาน้อยๆก่อน เพื่อให้ปรัยตัวได้ในระยะแรก จะได้ไม่งง แต่ก็ทำให้ความชัดเจนลดตามไปด้วยนั้นเอง จึงเป้นอีกเหตุผลว่าทำไมแว่นตาเพิ่งตัดมาแล้วยังไม่คมชัด […]