ผลกระทบของแสงสีฟ้าต่อคนทำงานหน้าคอม: เลนส์แบบไหนช่วยได้จริง?

ถ้าคุณทำงานหน้าคอมวันละหลายชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นงานออฟฟิศ งานออกแบบ งานบัญชี หรือแม้แต่ใช้มือถือประชุมทั้งวัน คุณกำลังได้รับ “แสงสีฟ้า (Blue Light)” ต่อเนื่องกว่าที่คิด แสงสีฟ้าไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ผลกระทบต่อดวงตามักถูกมองข้าม โดยเฉพาะในคนที่ต้องเพ่งหน้าจอใกล้ ๆ หลายชั่วโมงต่อวัน

แสงสีฟ้าคือแสงแบบไหน?

แสงสีฟ้าเป็นแสงพลังงานสูง (HEV Light) อยู่ในกลุ่มแสงที่ตามองเห็นได้ มีความยาวคลื่นสั้น แต่พลังงานค่อนข้างแรง ทำให้ทะลุผ่านดวงตาได้ง่าย เวลาใช้งานหน้าจอใกล้ตา แสงสีฟ้าจึงกระทบต่อสายตาโดยตรงมากขึ้น

ผลกระทบของแสงสีฟ้าต่อคนทำงานหน้าคอม

1) ทำให้ตาล้าเร็วขึ้น

มองจอเป็นเวลานาน กล้ามเนื้อตาต้องเพ่งตลอดเวลา แสงสีฟ้าที่พลังงานสูงทำให้ตาล้าเร็วกว่าปกติอีกเท่าตัว

2) ปวดตา แสบตา บางครั้งถึงขั้นน้ำตาไหล

เมื่อกระพริบตาน้อยลง ดวงตาเริ่มแห้ง ประกอบกับแสงสีฟ้าที่คมและสว่าง ทำให้รู้สึกแสบตาได้ง่าย

3) ปวดหัวหรือมึนหัวหลังทำงานนาน ๆ

เป็นผลจากกล้ามเนื้อตาตึงตัวสะสม หลายคนไม่รู้ว่าปวดหัวเพราะ “แสงจอ” ไม่ใช่เพราะงานเครียด

4) นอนหลับยากในตอนกลางคืน

เพราะแสงสีฟ้าจะไปกดยับยั้งเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่ใช้ในการพักผ่อน คนที่เล่นมือถือก่อนนอนจึงมัก “ตาค้าง” หลับยากขึ้น

5) ภาระต่อจอประสาทตาในระยะยาว

การโดนแสงสีฟ้ามากเกินไปทุกวันเป็นเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาจอประสาทตา โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ง่าย

แล้วเลนส์แบบไหนช่วยลดผลกระทบได้จริง?

สำหรับคนทำงานหน้าคอม เลนส์บางประเภทมีผลโดยตรงในการช่วยลดแสงที่เป็นอันตราย และทำให้การทำงานสบายขึ้น

1) เลนส์กรองแสงสีฟ้า (Blue Light Filter)

ช่วยอะไรได้:

กรองแสงสีฟ้าที่ออกมาจากจอมือถือ คอมพิวเตอร์ และไฟ LED
ลดอาการแสบตา ตาล้า และปวดหัวจากการจ้องจอเป็นเวลานาน
ทำให้ตาไม่ตึงตอนกลางคืน ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น

เหมาะสำหรับใคร:ทุกคนที่ใช้หน้าจอนานกว่า 4–6 ชั่วโมงต่อวัน

2) เลนส์ลดแสงสะท้อน (Anti-Reflective / AR Coat)

แสงสะท้อนจากจอไฟและหลอดไฟ LED ทำให้สายตาต้องเพ่งมากขึ้น
เคลือบ AR ช่วยให้แสงที่เข้าสู่ดวงตานุ่มลง เห็นภาพชัดขึ้นโดยไม่ต้องใช้แรงเพ่ง

ประโยชน์:

ลดแสงสะท้อนบนเลนส์
ทำงานนาน ๆ แล้วตานุ่มขึ้น ไม่ปวดจนล้า

3) เลนส์โฟกัสระยะกลาง (Office Lens / Computer Lens)

เลนส์ประเภทนี้ถูกออกแบบมาสำหรับการทำงานหน้าคอมโดยเฉพาะ
ช่วยให้มองทั้งจอและเอกสารบนโต๊ะได้ชัด โดยไม่ต้องก้มเงยเยอะ

เหมาะสำหรับ:

งานที่ต้องสลับมองจอ–กระดาษทั้งวัน
ดีไซเนอร์ โปรแกรมเมอร์ บัญชี พนักงานออฟฟิศ

4) เลนส์โปรเกรสซีฟ (สำหรับอายุ 40+)

ถ้าคุณมีสายตาสั้นร่วมกับสายตายาวตามวัย เลนส์โปรเกรสซีฟจะช่วยจัดระยะมองใกล้–กลาง–ไกล ให้ต่อเนื่องในเลนส์เดียว ช่วยลดอาการเพ่งเวลามองใกล้ ซึ่งมักเป็นสาเหตุของปวดตาและปวดหัว